หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ห้องจดหมายเหตุ จัดเก็บและให้บริการเอกสาร หนังสือ สื่อโสตทัศน์ต่างๆ และเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสิ่งของที่มีคุณค่าเกี่ยวกับประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในระยะเริ่มแรกสถาปนา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเงินที่เหลือจากการสร้างพระบรมรูปทรงม้าจำนวน ๙๘๒,๖๗๒.๔๗ บาท ให้เป็นกองทุนสำหรับใช้ปลูกสร้างอาคารเรียน พร้อมกับกำหนดให้ที่ดินตำบลปทุมวัน ซึ่งอยู่ในความดูแลของพระคลังข้างที่เป็นอาณาเขตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน ๑,๓๐๙ ไร่ ทั้งเงินทุนพระราชทานและที่ดินพระราชทานนี้ ถือว่าเป็นกองทุนสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนับตั้งแต่แรกเริ่ม อย่างไรก็ดียังมิได้พระราชทานกรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนนี้ให้แก่มหาวิทยาลัยอย่างเด็ดขาด เนื่องจากยังติดอยู่ในบัญชีเลี้ยงชีพบาทบริจาริกาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมชนกนาถ ดังนั้นในทางทฤษฎี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยต้องทำสัญญาเช่าที่ดินกับพระคลังข้างที่
ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๘๒ พันเอกหลวงพิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ออกกฎหมายโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้มหาวิทยาลัย ตามรายละเอียดปรากฏใน “พระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน อันเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตำบลปทุมวัน จังหวัดพระนคร ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ.๒๔๘๒” จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้รับกรรมสิทธิ์ที่ดินพระราชทานผืนนี้มาโดยสมบูรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ปัจจุบันที่ดินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีพื้นที่ ๑,๑๕๓ ไร่ ซึ่งได้จัดแบ่งตามผังแม่บทได้เป็น ๓ ส่วน คือ พื้นที่เขตการศึกษาประมาณ ๕๐% พื้นที่สำหรับส่วนราชการยืมหรือเช่าใช้ประมาณ ๒๐% และพื้นที่เขตพาณิชย์ประมาณ ๓๐% ซึ่งการจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว เป็นไปตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้สถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ การที่มหาวิทยาลัยจะสามารถดำเนินพันธกิจหลักได้นั้น จำเป็นต้องมีทรัพยากร เกื้อหนุนเพิ่มเติมจากงบประมาณแผ่นดิน